HOME NEWS Press

Search dvm-mag


We have 59 guests online
Press
PDF Print E-mail

EDIUS.NET เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่ปรับแต่งได้ พร้อมเทคโนโลยี AI ขั้นสูงสำหรับ EDIUS 11 ในงาน NAB Show 2025

เผยแพร่เมื่อ 8 เมษายน 2025

หากคำบรรยายยังเป็นภาษาอังกฤษ กรุณาคลิก ⚙️ → Subtitles → Auto-translate → ภาษาไทย

ลาสเวกัส – งาน NAB Show 2025 – บริษัท magic multi media ผู้จัดจำหน่ายทั่วโลกและผู้ดำเนินงานเว็บไซต์ EDIUS.NET ประกาศเปิดตัวการอัปเกรดครั้งสำคัญสำหรับ Grass Valley EDIUS 11 โดยมีไฮไลต์ได้แก่ BAT Server, ฟังก์ชันการปรับแต่งที่หลากหลาย, และการเร่งความเร็ว AI ด้วยฮาร์ดแวร์ เช่น Intel NPU

magic multi media เปิดตัว EDIUS BAT Server ใหม่ ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถสร้างแอปพลิเคชันและเวิร์กโฟลว์แบบอัตโนมัติได้ง่ายขึ้น โดยแอปเหล่านี้รองรับการเร่งความเร็วด้วย CUDA และประโยชน์จากความร่วมมือใหม่กับ Intel ด้วยการใช้หน่วยประมวลผล Intel Core Ultra ที่มี Neural Processing Unit (NPU) ในตัว

Michael Lehmann-Horn CEO ของ magic multi media GmbH และ EDIUS.NET กล่าวว่า > “EDIUS BAT Server ช่วยให้สามารถสร้างฟังก์ชันและเวิร์กโฟลว์ใหม่ ๆ ที่ปรับแต่งได้ รวมถึง AI ได้อย่างหลากหลาย”

ฟีเจอร์ใหม่ของ BAT Server พร้อมให้ใช้งานแล้วโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับผู้ใช้ EDIUS 11

Alex Kataoka ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ของ EDIUS จาก Grass Valley กล่าวเสริมว่า: “เรารู้สึกยินดีที่ได้เห็นพันธมิตรของเรา magic multi media ใช้ประโยชน์จากสถาปัตยกรรมแบบเปิดของ EDIUS 11 ได้อย่างเต็มที่ผ่านการนำ BAT Server มาใช้ ทำให้ผู้ใช้สามารถสร้างฟังก์ชันเฉพาะตัวได้ โดยไม่ต้องสับสนกับเมนูที่ซับซ้อนอีกต่อไป เวิร์กโฟลว์จะลื่นไหลขึ้นอย่างเห็นได้ชัด”

Carla Rodriguez รองประธานและผู้จัดการทั่วไปฝ่าย Client Software Ecosystem จาก Intel กล่าวว่า: “NPU ของ Intel ช่วยเร่งกระบวนการ AI ได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยย้ายภาระงานออกจาก CPU และ GPU ให้ทำงานเฉพาะทางมากขึ้น EDIUS 11 จะได้ประโยชน์จากความสามารถนี้อย่างเต็มที่ผ่านการเปิดตัว BAT Server”

 

วิดีโอตัวอย่าง EDIUS 11

ปัจจุบัน BAT Server ถูกรวมไว้ใน EDIUS.NET Setup Manager และสามารถติดตั้งได้ฟรีตามต้องการ Michael Lehmann-Horn กล่าวเพิ่มเติมว่า > “เราผ่านการทดสอบเวอร์ชันสาธารณะของ BAT Server แล้วอย่างประสบความสำเร็จ และได้เรียนรู้มามาก ตอนนี้ผู้ใช้ EDIUS 11 ทุกคนสามารถเข้าถึงฟีเจอร์เหล่านี้ได้ โดยเรายังได้เตรียมแอปตัวอย่างที่ทรงพลังไว้ให้ใช้งานทันทีด้วย”

ตัวอย่างของแอปจาก BAT Server ได้แก่:

  • แอปถอดเสียงพูดออกมาเป็นข้อความ พร้อมสร้างคำบรรยายอัตโนมัติได้มากถึง 100 ภาษา (พร้อมตัวเลือกแปลเป็นภาษาอังกฤษ)

  • การ deinterlace คุณภาพสูง

  • การแปลงวิดีโอ SD ไปเป็น HD อย่างคมชัด

  • การสร้างพร็อกซีอย่างชาญฉลาด

  • ตัดต่อวิดีโอที่มีความยาวมากโดยไม่สูญเสียข้อมูล

  • สร้างไฟล์วิดีโอที่สามารถเปิด/ปิดคำบรรยายได้

  • ส่งไฟล์ไปยังแอปหรือเครื่องมือ AI อื่น ๆ เพื่อประมวลผลต่อ

ที่บูธของ Grass Valley ในงาน NAB Show ยังได้จัดแสดงฟีเจอร์ใหม่เพิ่มเติมที่กำลังจะเปิดตัว เช่น:

  • การตรวจจับฉากอัตโนมัติอย่างชาญฉลาด

  • การวิเคราะห์จังหวะดนตรี

  • การค้นหาภาพโดยใช้ AI รวมถึงการจดจำข้อความและใบหน้า

Michael Lehmann-Horn เสริมว่า: “EDIUS 11 ถูกออกแบบให้เป็นระบบตัดต่อที่มีสถาปัตยกรรมแบบเปิด และตอนนี้เราเห็นแอปต่าง ๆ ที่ต่อยอดจากพื้นฐานนั้นเพื่อยกระดับการใช้งาน รวมถึงรองรับการใช้งาน AI ในอนาคตได้อย่างลื่นไหล”

ทั้งผู้ใช้งานทั่วไป องค์กร และหน่วยงานรัฐ เช่น ตำรวจ ต่างไว้วางใจในระบบที่ไม่เชื่อมต่อข้อมูลส่วนตัวผ่านอินเทอร์เน็ต เพราะ บริการ AI ของ EDIUS ทั้งหมดทำงานแบบออฟไลน์ โดยไม่ต้องเชื่อมต่อออนไลน์ หากผู้ใช้ต้องการใช้คลาวด์ก็สามารถเปิดใช้งานได้แบบ อุปกรณ์ต่ออุปกรณ์

ระบบเร่งด้วย Intel NPU (หากโปรเซสเซอร์รองรับ) และ BAT Server พร้อมใช้งานสำหรับผู้ใช้ EDIUS 11 แล้วทันที



 
Grass Valley announces EDIUS 11 at IBC 2023 PDF Print E-mail

EDIUS 11 ประกาศเปิดตัวที่งาน IBC 2023 

EDIUS 11 Launch Trailer - EDIUS 11 out now!

 Grass Valley® มีความยินดีที่จะประกาศเปิดตัว EDIUS® 11 ที่ IBC 2023 ที่บูธ 9-A01

EDIUS 11 มาพร้อมกับชุดเครื่องมือ AI ที่ช่วยให้นักตัดต่อวิดีโอมีสมาธิกับการสร้างสรรค์ผลงาน EDIUS 11 มีความพร้อมในการทำงานร่วมกับบริการ AI ของผู้พัฒนาภายนอก ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ โปรแกรม Mync® 11 ให้มาเพื่อเป็นระบบจัดการเนื้อหาอันทรงพลังที่ผสานรวมกับ EDIUS 11 เป็นอย่างดีในการจัดการกับสื่อดิจิทัลทุกประเภท เพื่อให้การทำงานเป็นกลุ่มในโครงการ EDIUS ที่มีผู้ใช้หลายคน Grass Valley จึงนำระบบเซิร์ฟเวอร์ Chorus Hub 11 มาแนะนำให้รู้จักพร้อมกัน

“EDIUS เวอร์ชันล่าสุดได้ปฏิวัติการสร้างสรรค์งานในยุคต่อไปด้วยสถาปัตยกรรม Chorus Hub ขั้นสูง” Katsushi Takeuchi รองประธานและผู้จัดการทั่วไประบบตัดต่อของ Grass Valley กล่าว “นอกเหนือจากการผลิตวิดีโอขั้นสูงพร้อมฟังก์ชันใหม่มากมาย ประสบการณ์จากผู้ใช้ยังได้รับการปรับปรุงเพื่อให้ใช้งานง่ายและสะดวกสบายยิ่งขึ้น ด้วยการเพิ่มเซิร์ฟเวอร์ Chorus Hub 11 และการควบรวมที่แข็งแกร่งเข้ากับ Mync 11 ทำให้ EDIUS อยู่ในตำแหน่งที่มั่นคงสำหรับนักตัดต่อชำนาญการทั้งในปัจจุบันและในปีต่อๆ ไป”

การปรับปรุงฟังก์ชันการทำงานประกอบด้วยการอัปเดตเอ็นจิ้นหลักพร้อมการรองรับสภาพแวดล้อมพีซีล่าสุดและการใช้ประโยชน์จาก GPU ฟิลเตอร์การแก้ไขสีอัจฉริยะใหม่จะปรับภาพวิดีโอให้เหมาะสมโดยอัตโนมัติ รวมเอฟเฟกต์การทำสีบกพร่อง (Glitch Effect) แบบพร้อมใช้ก็มีให้ในเวอร์ชันนี้ด้วย เครื่องมือปรับคลิปทำให้ผู้ใช้สามารถใช้เอฟเฟ็กต์กับคลิปหลาย ๆ คลิปได้อย่างสะดวกสบาย

การจดจำเสียงด้วย AI ช่วยให้โปรแกรมตัดต่อสามารถกำจัดเสียงรบกวนที่ดังมากได้ดีกว่าปกติ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพเสียงให้ดียิ่งขึ้น EDIUS 11 ได้ให้โปรแกรมตัดต่อใหม่ที่ออกมาโดยเฉพาะซึ่งสนับสนุนเวิร์กโฟลว์การแปลงคำพูดเป็นข้อความโดยใช้ AI ด้วย เช่นเดียวกับโปรแกรมทำ Titler ที่ผูกติดมาเพื่อการทำงานที่ รวดเร็วและทรงพลังใหม่ ทำให้ผู้ใช้สามารถเขียนข้อความเป็นคำบรรยายลงในวิดีโอได้สะดวก

Mync 11 ให้คุณสมบัติการจัดการเนื้อหาขั้นสูงกับผู้ใช้ เพื่อเตรียมวิดีโอสำหรับการตัดต่ออย่างรวดเร็ว แท็บ EDIUS 11 Mync ใหม่นำเครื่องมือและเนื้อหาเหล่านี้มาไว้ที่ปลายนิ้วของนักตัดต่อโดยตรง

Read more...
 
Blackmagic Design Announces Blackmagic eGPU PDF Print E-mail

ตัวประมวลผลกราฟิกส์ภายนอก ธันเดอร์โบลต์ 3 รุ่นใหม่ เพิ่มประสิทธิภาพให้แม็กบุ๊กโปรเทียบเท่ากับเครื่องตั้งโต๊ะ

ฟรีมอนต์, แคลิฟอร์เนีย - 12 กรกฎาคม 2018 - แบล็คเมจิกดีไซน์ เปิดตัว Blackmagic eGPU ตัวประมวลผลกราฟิกประสิทธิภาพสูงสำหรับซอฟต์แวร์สร้างสรรค์มืออาชีพเช่น DaVinci Resolve เกม 3D และ VR โดยออกแบบร่วมกับ บริษัทแอปเปิล ให้ใช้ชิป Radeon Pro 580 มีช่อง Thunderbolt 3 2 ช่อง HDMI 2.0 1 ช่อง จ่ายกำลังไฟ 85W และการเชื่อมต่อทาง USB 3.1 จำนวน 4 ช่อง การออกแบบที่ผสมผสานในการนำการประมวลผลกราฟิกส์ระดับเครื่องตั้งโต๊ะชั้นสุดยอดให้กับ MacBook Pro ในการทำงานวิดีโอระดับมืออาชีพ เกม 3D และ VR อันทรงพลัง Blackmagic eGPU นับเป็นเจ้าแรกที่สนับสนุนการแสดงผลทางช่อง Thunderbolt 3

Blackmagic eGPU ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของนักตัดต่อวิดีโอระดับมืออาชีพ ช่างปรับแก้สีภาพยนตร์ระดับฮอลลีวู้ด และศิลปินสร้างเอฟเฟ็กต์ทางภาพที่ต้องการเครื่องมือที่คล่องตัวแต่มีพลังประมวลผลกราฟิกส์ระดับเครื่องตั้งโต๊ะให้กับ MacBook Pro ของตน Blackmagic eGPU มีความยืดหยุ่นอย่างไม่น่าเชื่อ เพียงเสียบสายผ่าน Thunderbolt 3 ผู้ใช้ก็จะได้รับประโยชน์จากการปรับปรุงประสิทธิภาพของกราฟิกและการเร่งความเร็วด้านการคำนวณ มันสมบูรณ์มากในการเร่งการทำงานสร้างสรรค์มืออาชีพ รวมทั้งงานตัดต่อวิดีโอ การแก้ไขสี และ ทำเอฟเฟ็กต์ภาพด้วย DaVinci Resolve Blackmagic eGPU ยังเพิ่มประสิทธิภาพให้กับเกม 3D และ VR รุ่นล่าสุด ให้ดูสมจริงกว่าที่เคย นั่นหมายความว่าลูกค้าจะได้ภาพที่มีความละเอียดสูงขึ้น เล่นที่อัตรากรอบภาพสูงกว่า แสงสีและพื้นผิวที่ละเอียดมากขึ้น เพื่อประสบการณ์ที่ดื่มด่ำอย่างแท้จริงแม้จะใช้งานบนคอมพิวเตอร์แล็ปท็อปก็ตาม

ด้วยการออกแบบที่งามสง่า ตัวถังอลูมิเนียมขึ้นรูปชิ้นเดียว ระบบระบายความร้อนที่ไม่เหมือนใคร ให้การไหลเวียนอากาศที่สมดุลและกระจายความร้อนได้ดียิ่งขึ้นแต่ทำงานได้อย่างเงียบสนิทเพียง18dB ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับงานผลิตวิดีโอและสภาวะแวดล้อมด้านวิศวกรรมเสียง
Blackmagic eGPU ใช้โปรเซสเซอร์กราฟิก Radeon Pro 580 ที่ให้กราฟิกที่สวยงามและประสิทธิภาพการคำนวณที่น่าทึ่ง หน่วยความจำ GDDR5 ความจุ 8GB แบบ 256 บิต หน่วยคำนวณแบบแยกจากกันจำนวน 36 หน่วย ให้กำลังประมวลผลสูงสุด 5.5 teraflops ชิป Radeon Pro 580 สามารถวาดภาพขนาดใหญ่ 38.4 พันล้านพิกเซลต่อวินาที! นอกจากนี้ Blackmagic eGPU ยังสนับสนุนเทคโนโลยี Metal Graphics จากแอปเปิล ที่ทำให้การเข้าถึงหน่วยประมวลผลกราฟิกใกล้เคียงกับการเข้าถึงแบบตรงเพื่อประสิทธิภาพในการคำนวณและสร้างภาพกราฟิกทำที่สูงสุดกับเกมและโปรแกรมแอพพลิเคชัน

Read more...
 
EDIUS X Pro Home Edition out now! PDF Print E-mail

EDIUS X Pro เวอร์ชันสำหรับงานส่วนตัว (Home Edition) มาแล้ว 

Grass Valley ได้เติมเต็มความปรารถนาของผู้ใช้งานตัดต่อส่วนตัวจำนวนมาก โดยออก EDIUS X Pro Home Edition ที่มีฟังก์ชันการทำงานเต็มรูปแบบของโปรแกรมตัดต่อ EDIUS X Pro ที่ได้รับรางวัล ลูกค้าจะประหยัดได้กว่า 50% จากราคาเวอร์ชันเต็มของ EDIUS X Pro ปกติ - Home Edition จำหน่ายในราคาเพียง 9800 บาท เท่านั้น

"มีข้อจำกัดเพียง 3 ประการเท่านั้น" Michael Lehmann-Horn ซีอีโอของ magic multi media GmbH ผู้จัดจำหน่าย EDIUS ทั่วโลกอธิบายไว้ว่า: "EDIUS X Pro Home Edition มุ่งเป้าไปที่ผู้นำไปใช้งานส่วนตัวเป็นหลัก จึงไม่อนุญาตให้ใช้งานในเชิงพาณิชย์, ไม่มีสิทธิ์อัปเกรดไปเป็น EDIUS เวอร์ชัน 11 ในอนาคต, และให้เปิดใช้งานบนพีซีได้เพียง 1 เครื่องในเวลาเดียวกันเท่านั้น"

EDIUS X Pro มีชื่อเสียงทางด้านประสิทธิภาพและการทำงานที่เสถียรยิ่ง การเรนเดอร์ภาพจะทำงานอยู่เบื้องหลังทำให้กระบวนการทำงานราบรื่น สร้างสรรค์ และแทบไม่มีการหยุดรอ EDIUS รองรับรูปแบบการบันทึกและวิธีการบีบอัดของกล้องล่าสุด มันสามารถผสมภาพจากสื่อต่าง ๆ ทั้งในแง่ของอัตราเฟรมและความละเอียดบนไทม์ไลน์ได้ทันที EDIUS เป็นโปรแกรมที่ซื้อครั้งเดียวแล้วใช้งานได้ตลอด ไม่ต้องจ่ายค่าใช้งานแบบรายปี

EDIUS X Pro Home Edition นำเสนอฟังก์ชันการทำงานเต็มรูปแบบและคุณลักษณะทั้งหมดของเวอร์ชันเต็มปกติ รวมถึงโบนัสปลั๊กอินจาก Acon, ProDAD และ NewBlue เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทางด้านเสียง การสร้างไทเทิลและเอฟเฟกต์วิดีโอ นอกจากนี้ยังสามารถอัปเดต EDIUS X 10.xx ที่กำลังจะมีขึ้นทั้งหมดได้อีกด้วย

ที่เว็บไซต์ www.EDIUS.NET มีบทเรียนฟรีมากมายพร้อมคำแนะนำและเคล็ดลับ ข้อมูล การสนับสนุนฟรีต่าง ๆ รวมทั้งซอฟต์แวร์นั้นไม่ได้มีให้บริการเฉพาะในภาษาอังกฤษเท่านั้น แต่ยังให้บริการในภาษาเยอรมัน ฝรั่งเศส อิตาลี สเปน และภาษาอื่น ๆ ด้วย

Michael Lehmann-Horn อธิบายว่า: "เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ตอนนี้เราสามารถนำเสนอ EDIUS X Pro Home Edition ในราคาที่ถูกกว่ารุ่นปกติมากกว่า 50% ซึ่งเป็นข้อเสนอที่น่าดึงดูดใจสำหรับผู้ใช้งานส่วนตัวโดยเฉพาะ" โปรแกรม EDIUS X Pro Home Edition วางจำหน่ายแล้ววันนี้ที่ตัวแทนจำหน่าย EDIUS ทั่วโลก

 
Sony Announces the FS5 II | NAB 2018 PDF Print

โซนี่เปิดตัว กล้อFS5 II ในงาน NAB 2018


กล้องที่ใช้เซนเซอร์ใหญ่รุ่นใหม่ของโซนี่กำลังเรียงหน้าออกสู่ตลาด หนึ่งในนั้นคือ FS5 II ที่สนับสนุนความละเอียด 4096 x 2160 4K HDR ในอัตรา 120fps ที่โหมด 60Hz (และ 100fps ที่โหมด 50Hz) จยถึงความสามารถในการทำงานแบบ RAW จัดเป็นกล้องระดับ Super 35 มม. ซึ่งรุ่นใหม่นี้ นอกจากจะให้ภาพที่ยอดเยี่ยมแล้วยังมาพร้อมกับรูปทรงที่เหมาะกับการใช้สอยอีกด้วย

นอกเหนือจากการทำงานแบบ S-Log 2/3 แล้ว FS5 II ยังทำงานแบบ Instant HDR คือถ่ายแล้วใช้งานได้เลยโดยไม่ต้องแต่งสีใหม่เมื่อใช้งานในโหมด HLG/ BT.2020 เพื่อการผลิตเนื้อหา HDR อย่างรวดเร็ว
 
 FS5 II สามารถเปลี่ยนเลนส์ได้ โดยใช้ที่ยึดเลนสส์แบบ E-mount เพื่อความยืดหยุ่นในการทำงานในลักษณะต่าง ๆ  เช่นงานโฆษณาทางเว็บ งานผลิตมิวสิควิดีโอ ละครโทรทัศน์ ภาพยนตร์สารคดี และกิจกรรมต่าง ๆ

FS5 II ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ผลิตรายการในปัจจุบัน ด้วยรูปลักษณ์ใหม่หมด โทนภาพที่ปรับปรุงขึ้นเพื่องานถ่ายที่เน้นธรรมชาติ การถ่ายภาพบุคคลให้เหมือนจริง สีผิวที่ละเอียดอ่อน มีเสน่ห์ แสดงสีหน้าที่ได้อารมณ์และนุ่มนวลมากขึ้น ด้วยความเชี่ยวชาญที่สะสมมาจากกล้องดิจิทัล VENICE ของโซนี่ FS5 II จึงให้ภาพลักษณ์ที่สดชื่นสดใส ทางเลือกสำหรับสร้างสรรค์งานในขั้นตอนผลิตหลังการถ่ายทำที่หลากหลายอันเนื่องมาจากความสามารถของเซนเซอร์ 4K Super 35 Exmor® CMOS ที่มีประสิทธิภาพสูง

ทากูระ เอ็มมา ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ของ Sony Professional Solutions Americas กล่าวว่า "เมื่อ Sony พัฒนาเทคโนโลยีกล้องตัวใหม่ เราจะรวบรวมข้อเสนอแนะจากปลายสุดของห่วงโซ่การผลิตทั้งหมดตั้งแต่ ผู้กำกับภาพไปจนถึงผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิต กล้องตัวนี้จึงไม่มีข้อยกเว้นเช่นกัน เราค่อย ๆ วิวัฒน์และพัฒนา FS5 ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงจากความสามารถในการถ่ายภาพทั่วไป และให้ FS5 II เป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นจากการใช้เซนเซอร์ขนาดใหญ่ ซึ่งจะมีความยืดหยุ่นและทางเลือกที่สร้างสรรค์มากยิ่งขึ้น"

Last Updated on Thursday, 03 May 2018 18:23
Read more...
 
<< Start < Prev 1 2 3 4 5 6 7 Next > End >>

Page 1 of 7